Thursday, January 24, 2013

การถอนพิษสุรา

การถอนพิษสุรา

 http://www.1413.in.th/uploads/%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B8%93%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%9B%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%94%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88/%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B8%93%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%A3/%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B8%96%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%B2.jpg

      ในระหว่างที่ผู้ดื่มทำการบำบัด ผู้ดื่มอาจมีอาการถอนพิษสุรา สาเหตุเป็นเพราะว่าดื่มสุราต่อเนื่องมาเป็นเวลายาวนานหลายปี  ทำให้สมองของผู้ดื่มเกิดการเสพติด  สมองจะดื้อต่อสุรา ต้องดื่มปริมาณมากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อให้ได้ความสุขเท่าเดิม  หากหยุดดื่ม ก็จะเกิดอาการถอน ตามมา

      อาการถอนมีลักษณะดังต่อไปนี้

      6-8 ชั่วโมงแรกภายหลังการหยุดดื่ม ผู้ป่วยมักมีอาการระบบประสาทอัตโนมัติตื่นตัว เช่น คลื่นไส้, อาเจียน, เหงื่อแตก, ชีพจรเต้นเร็ว, ความดันโลหิตสูงขึ้น, ประสาทตื่นตัว เป็นต้น
      24-36 ชั่วโมงแรกภายหลังการหยุดดื่ม ผู้ป่วยมักมีอาการถอนสูงที่สุด หลังจากนั้นอาการก็ค่อยๆหายไปภายใน 3-4 วัน

      กรณีที่มีอาการถอนรุนแรง ซึ่งสมควรได้รับการบำบัดรักษาภายในโรงพยาบาล ผู้ป่วยมักมีอาการดังต่อไปนี้

      8-12 ชั่วโมงแรกภายหลังการหยุดดื่ม ผู้ป่วยอาจมีอาการประสาทหลอน, ภาพหลอน, หูแว่ว, ประสาทหลอนทางสัมผัสผิวหนัง, คิดหลงผิดไป, สมควรได้รับยาเพื่อรักษาอาการ
      12-24 ชั่วโมงแรกภายหลังการหยุดดื่ม  ผู้ป่วยอาจมีอาการลมชัก  หากผู้ป่วยมีอาการลมชัก ก็เสี่ยงที่จะมีอาการสมองสับสนตามมา สมควรได้รับยาเพื่อป้องกันอาการชักครั้งที่สอง และอาการสมองสับสน
      72-96 ชั่วโมงแรกภายหลังการหยุดดื่ม ผู้ป่วยอาจมีอาการสมองสับสน กระสับกระส่ายอย่างรุนแรง หูแว่วประสาทหลอน สมควรได้รับการบำบัดรักษาภายในโรงพยาบาล และดูแลอย่างใกล้ชิด
      ดังนั้น การบำบัดรักษาเพื่อถอนพิษสุรา เป็นการรักษาเพื่อบรรเทาอาการถอนสุรา และป้องกันอาการถอนที่รุนแรง เช่น อาการทางจิต, อาการชัก, และอาการสมองสับสน ดังที่กล่าวข้างต้น  แพทย์ก็จะให้ยาชดเชยเพื่อการถอนพิษสุรา   ให้อยู่ในที่สงบและสามารถดูแลได้อย่างใกล้ชิดเพื่อติดตามอาการถอนว่ารุนแรง เพิ่มขึ้นหรือไม่  และให้สารน้ำ, อาหาร และวิตามินที่จำเป็น เช่น วิตามินบี1 เป็นต้น เพื่อป้องกันอาการสมองสับสน และความจำเสื่อมที่เกิดจากการขาดวิตามินบี1 ช่วยให้ผู้ป่วยนอนหลับพักผ่อนได้ จนพ้นระยะที่ถอนรุนแรงไปจนปลอดภัย มีระยะเวลาการรักษา ประมาณ 7-14 วัน

หากมีปัญหาหรือข้อสงสัย โทรมาคุยกับเราได้ที่ สายด่วน 1413  ศูนย์ปรึกษาปัญหาสุราทางโทรศัพท์

ยาเบื่อเหล้า

ยาเบื่อเหล้า

http://www.1413.in.th/uploads/%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%B2/%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%B9%E0%B8%A5%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%B4%E0%B8%87%E0%B8%A5%E0%B8%B6%E0%B8%81/%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%B2.jpg
      ยาเบื่อเหล้า มีชื่อสามัญว่า ไดซันฟิแลม  ขนาดยาเม็ดละ 500 กรัม รับประทานวันละ ½ - 1 เม็ดต่อวัน ขนาดโดยทั่วไปประมาณ ½ เม็ด หรือ 250 กรัม  ชื่อการค้าที่มีในประเทศ ได้แก่  chronol, difiram, alcobuse

      กลไกการออกฤทธิ์  ยาจะไปยับยั้งน้ำย่อย(เอนไซม์) ของตับ หากผู้ป่วยรับประทานยาไดซันฟิแลม และไปดื่มสุรา จะเกิดภาวะเป็นพิษ ทำให้มีอาการคลื่นไส้อาเจียน หน้าแดง ตัวแดง ปวดศีรษะ เวียนศีรษะ หน้ามืด เป็นลมหมดสติได้ กรณีที่มีอาการรุนแรงมาก อาจเป็นอันตรายถึงขั้นทำให้ความดันโลหิตต่ำ หัวใจหยุดเต้นได้

      ดังนั้นการรับประทานยาตัวนี้ จึงเหมาะกับผู้ป่วยที่ต้องการหยุดดื่มสุราโดยเด็ดขาด เป็นการรับประทานยาเพื่อเตือนใจผู้ติดสุราว่าไม่สามารถกลับไปดื่มสุราได้  หากกลับไปดื่ม ก็จะเกิดอาการไม่พึงประสงค์ดังกล่าว

      วิธีการรับประทาน  ผู้ป่วยต้องหยุดดื่มสุราแล้วเป็นอย่างน้อย  24-48ชม. เพื่อให้แอลกอฮอล์หมดไปจากร่างกาย และควรหลีกเลี่ยงอาหารหรือเครื่องดื่มทุกประเภทที่มีแอลกอฮอล์เป็นส่วนผสม ระยะเวลาที่รับประทาน ประมาณ 6-12 เดือนในช่วงที่กำลังเลิกสุราอย่างจริงจัง

ข้อควรระวัง  ไม่ควรแอบให้ยาแก่ผู้ป่วยทานโดยไม่รู้ตัว  ผู้ป่วยอาจเป็นอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตจากปฏิกิริยาของยากับแอลกอฮอล์ที่ รุนแรง  ซึ่งเคยมีรายงานการเสียชีวิตของผู้ป่วย  ควรปรึกษาแพทย์หากต้องการใช้ยาตัวนี้  และควรตรวจเลือดเพื่อติดตามการทำงานของตับและเม็ดเลือดทุก 6 เดือน

หากมีปัญหาหรือข้อสงสัย โทรมาคุยกับเราได้ที่ สายด่วน 1413  ศูนย์ปรึกษาปัญหาสุราทางโทรศัพท์

ทางเลือกเลิกเหล้า กลุ่มเพื่อช่วยเพื่อน

กลุ่มเพื่อช่วยเพื่อน
 http://www.1413.in.th/uploads/%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B9%89/%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%81/%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8%B8%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%8A%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%99.jpg

      กลุ่มเพื่อนช่วยเพื่อน เป็นกลุ่มช่วยเหลือกันเอง โดยมีกระบวนให้เกิดการสร้างความหวัง และพลังใจให้กันและกัน  ซึ่งถือว่ากลุ่มเพื่อช่วยเพื่อนมีส่วนสำคัญมากในการป้องกันการกลับไปดื่ม สุราซ้ำ ในต่างประเทศได้รับความนิยมมาก เช่น สหรัฐอเมริกา และอีกหลายประเทศทั่วโลก เพราะช่วยทำให้ผู้มีปัญหาการบริโภคสุรา หยุดดื่มได้นานขึ้น มีชีวิตดีขึ้น ประเทศไทยกำลังมีความพยายามที่จัดตั้งกลุ่มเพื่อนช่วยเพื่อน ให้มีจำนวนมากขึ้นเพื่อรองรับกับปัญหาที่มีอยู่ ทั้งแบบจัดตั้งกันเอง และการผลักดันจากนโยบายของภาครัฐ ดังนั้นขอนำเสนอให้รู้จัก 2 รูปแบบคือ
1.ชมรมจิตอาสา โรงพยาบาลจอมทอง อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่
      โดยกระบวนการกลุ่ม “ชมรมจิตอาสา”โรงพยาบาลจอมทอง อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นกลุ่มช่วยเหลือกันเองแบบไม่เป็นทางการ เพื่อช่วยส่งเสริมสุขภาพและการปรับตัวต่อปัญหาต่างๆ ที่มีผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตได้อย่างเหมาะสม ทำให้สมาชิกรู้สึกมีคุณค่าในตนเอง โดยมีกระบวนการกลุ่ม 3 ระยะคือ ระยะสร้างสัมพันธภาพ ระยะดำเนินการ และระยะสิ้นสุดการทำกลุ่ม

      เริ่มต้นจากสมาชิกเข้าไปสร้างความคุ้นเคยกับผู้ที่ดื่มสุราทั้งในคลินิกเลิก สุราและตึกผู้ป่วยใน ให้ข้อมูลเกี่ยวกับปัญหาและผลกระทบ ข้อดีข้อเสียของการดื่มและการเลิกดื่มสุรา ชักชวนให้เข้าเป็นสมาชิกชมรมจิตอาสา ถ้าผู้ที่ดื่มสุราไม่สนใจหรือยังไม่พร้อมที่จะเลิกดื่มหรือเข้าร่วมเป็น สมาชิกของชมรมฯ ก็ยอมรับและเข้าใจ ทั้งยังให้กำลังใจอยู่ตลอด สำหรับผู้ที่พร้อมจะเข้าร่วมเป็นสมาชิกฯ ก็ชื่นชมพร้อมกับนัดหมายการทำกิจกรรมกลุ่มอย่างต่อเนื่อง

      บรรยากาศของกระบวนการกลุ่มเน้นการส่งเสริมให้สมาชิกได้แสดงความรู้สึก ความคิดเห็นด้วยความรู้สึกที่เป็นอิสระ มีความไว้วางใจและเชื่อมั่นกันและกัน รวมถึงมีการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหา และยอมรับซึ่งกันและกัน มีการช่วยเหลือให้กำลังใจกัน แม้ว่าจะมีใครกลับไปดื่มสุราซ้ำก็ไม่มีใครว่าอะไร ไม่ตำหนิหรือซ้ำเติมให้เสียใจ คราวหน้าค่อยเริ่มต้นใหม่ ประโยชน์จากกลุ่มนำไปปรับใช้และขยายเครือข่ายต่อไป ส่งผลดีให้สมาชิกสามารถเลิกสุราได้สำเร็จ จากนั้นได้สร้างตัวแบบที่ดีในการเปลี่ยนแปลงตนเองขยายออกไปเรื่อยๆ โดยให้รางวัลด้านจิตใจ ชื่นชม ยกย่องจากสมาชิกชมรมจิตอาสา ครอบครัวยอมรับและเกิดสัมพันธภาพในครอบครัวดีขึ้น ชุมชนให้โอกาส รวมถึงการใช้พลังในตนเองของสมาชิกเป็นแบบอย่างที่ดีในการปฏิบัติเพื่อเลิก ดื่มสุรา รวมถึงการมอบเกียรติบัตรในการเลิกดื่มสุราได้สำเร็จมานานกว่า 1 ปี ด้วย

      ข้อดีของกระบวนการกลุ่มทำให้สมาชิกมีความรู้สึกเป็นสากล คือ สมาชิกแต่ละคนตระหนักว่าทุกคนก็มีปัญหาเหมือนๆ กัน ไม่ใช่เราคนเดียวที่มีปัญหา และเกิดความรู้สึกว่าเราไม่ได้อยู่คนเดียวในโลกนี้ ทำให้เกิดความสบายใจขึ้น การเข้ากลุ่มเป็นการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารระหว่างสมาชิกในการดูแลตนเอง ให้กำลังใจระหว่างกันในการเผชิญปัญหาความเครียด และเสริมทักษะการป้องกันการกลับไปดื่มซ้ำ  และมีการเลียนแบบพฤติกรรมของคนอื่นที่ตนเองพอใจ เพื่อเป็นแรงจูงใจให้สามารถเลิกสุราได้สำเร็จได้ในที่สุด
2.กลุ่มผู้ติดสุรานิรนามตามหลัก 12 ขั้นตอน
      กลุ่มผู้ติดสุราเรื้อรังนิรนาม หรือกลุ่มเอเอ เป็นกลุ่มชายและหญิงที่มาแบ่งปันประสบการณ์  ความหวัง  ช่วยกันแก้ปัญหา และช่วยเหลือผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับสุรา

      สมาคมนี้มีสมาชิก 2 ล้านกว่าคน มีกลุ่มประมาณหนึ่งแสนกว่ากลุ่ม อยู่ตามประเทศต่างๆ มากกว่า 180 ประเทศทั่วโลก 

      สมาชิก คือ ผู้ที่อยากหยุดดื่มสุรา  การเป็นสมาชิกไม่มีค่าใช้จ่าย กลุ่มเอเออยู่ได้ด้วยเงินบริจาคจากสมาชิก กลุ่มเอเอไม่เกี่ยวข้องกับองค์กร ความเชื่อ ศาสนา หรือการเมือง และไม่ประสงค์ที่จะเกี่ยวข้องกับเรื่องอื้อฉาวใดๆ

      หลักการสำคัญของกลุ่มเอเอ คือ การหยุดดื่ม และช่วยผู้ติดสุราหยุดดื่มสุรา

      หลัก 12 ขั้นตอน เป็นหลักการฟื้นฟูทางด้านจิตวิญญาณสำหรับผู้ติดสุรา เพื่อใช้เป็นหลักในการดำเนินกลุ่มเอเอ เพื่อเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของสมาชิกกลุ่ม ทำให้กลุ่มคงความเป็นอิสระ ไม่พึ่งพาองค์กรภายนอก ป้องกันความขัดแย้งทางศาสนาและอิทธิพลทางการเมืองเข้าแทรกแซงแสวงหาผล ประโยชน์ และยังทำให้กลุ่มสามารถรักษาความลับและความเป็นนิรนามของสมาชิกไว้ได้

      สาระสำคัญในหลัก 12 ขั้นตอนมีดังต่อไปนี้ ในขั้นต้นเป็นการยอมรับตนเองว่ามีปัญหาติดสุราและไม่สามารถแก้ปัญหาของตนเอง ได้ ผู้ติดสุราต้องหันกลับมาเคารพศรัทธา พลังอำนาจที่อยู่เหนือตนในการกลับฟื้นตัวจากโรคติดสุรา พลังอำนาจที่อยู่เหนือตนในหลักการคือ สิ่งที่เป็นพลังใจในศรัทธาความเชื่อของผู้นั้นซึ่งอาจแตกต่างกันไปตามความ เชื่อของแต่ละศาสนา การหมั่นทบทวนถึงการกระทำที่ผ่านมาของตนเอง การยอมรับสิ่งผิดพลาดในอดีต การยอมรับผิดกับบุคคลอันเป็นที่เคารพรัก และการขอขมาโดยตรงต่อบุคคลที่ตนเองเคยล่วงเกินไว้

      ความสม่ำเสมอในการทบทวนตนเอง ยอมรับผิดอย่างจริงใจเมื่อพบว่าผิด การสวดอ้อนวอนภาวนาและการทำสมาธิเพื่อเข้าถึงสิ่งที่เป็นพลังใจ เมื่อค้นพบความสงบสุขก็ให้ความช่วยเหลือผู้ที่ยังมีปัญหาติดสุราหรือสารเสพ ติดอื่นๆ ต่อไป

      ปัจจุบันกลุ่มเอเอไทยที่มีการดำเนินกลุ่มอย่างสม่ำเสมอ  มีอยู่ประมาณ 12 กลุ่ม คือ กลุ่มเอเอในศูนย์บำบัดยาเสพติดขอนแก่น จ.ขอนแก่น และเครือข่ายโรงพยาบาลในภาคอีสาน กลุ่มเอเอในโรงพยาบาลอำเภออกุดชุม จ.ยโสธร กลุ่มเอเอในโรงพยาบาลสวนปรุง จ.เชียงใหม่ และเครือข่ายโรงพยาบาลในภาคเหนือ   กลุ่มเอเอในโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า กรุงเทพมหานคร   และกลุ่มเอเอที่ศูนย์การให้คำปรึกษาทางจิตวิทยานานาชาติ (Psychological service international หรือ PSI) ซ.สุขุมวิท43 กรุงเทพมหานคร  

      ท่านสามารถทดลองเข้าร่วมกลุ่มเอเอ  โดยติดต่อไปยังสถานบำบัดที่มีรายนามข้างต้นได้  หรือหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกลุ่มเอเอไทยได้จาก  Website ที่เป็นทางการ คือ www.aathailand.org  และสายด่วนหมายเลข 02-231-8300
      ขอบคุณเนื้อหาจากแผนงานการพัฒนาระบบ รูปแบบ และวิธีการบำบัดรักษาผู้มีปัญหาการบริโภคสุราแบบบูรณาการ (ผรส.) และพิชัย แสงชาญชัย คู่มือสายด่วน 1413 ศูนย์ปรึกษาปัญหาสุราทางโทรศัพท์1413 ; 2553
หากมีปัญหาหรือข้อสงสัย โทรมาคุยกับเราได้ที่ สายด่วน 1413  ศูนย์ปรึกษาปัญหาสุราทางโทรศัพท์

เลิกเหล้ากับวัด

เลิกเหล้ากับวัด

 http://www.1413.in.th/uploads/%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B9%89/%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%81/%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94.jpg
      ในประเทศไทยมีการบำบัดผู้ติดสุราโดยพระสงฆ์หลายรูปแบบ ได้แก่ การให้ผู้ติดสุราดื่ม หรืออบยาสมุนไพร ร่วมกับการปฏิบัติธรรม การดื่มน้ำมนต์ การรักษาสัจจะ มีการเทศนา สั่งสอน อบรมร่วมกับการปฏิบัติธรรม เพื่อปรับเปลี่ยนทัศนคติผู้ติดสุราให้เลิกดื่มสุรา

      กรณีศึกษาของสำนักปฏิบัติธรรมถ้ำตอง จังหวัดเชียงใหม่ ได้บำบัดผู้ติดสุราด้วยสมุนไพร “ยาสามราก” ได้แก่ ปลาไหลเผือก โลดทะนงแดง และพญาไฟ โดยเริ่มต้นจากสมาชิกชมรมจิตอาสาได้ไปทำกิจกรรมฟื้นฟูสมรรถภาพด้วยวิธีศาสนา บำบัด ได้แก่ การสวดมนต์ ทำวัตรเช้า ทำวัตรเย็น เดินจงกรม นั่งสมาธิ ฟังบรรยายธรรม และการจัดกิจกรรมกลุ่มทางศาสนา เสริมด้วยกระบวนการกลุ่มบำบัด มีการประชุมกลุ่มโดยพระพี่เลี้ยง และพยาบาลจากโรงพยาบาลจอมทอง การให้บริการปรึกษา การให้ความรู้เกี่ยวกับการเลิกสุรา และการดูแลสุขภาพทั่วไป กระบวนการเรียนรู้เพื่อช่วยเหลือตนเองเกี่ยวกับทักษะการปฏิเสธ ทักษะการสื่อสาร และทักษะการแก้ปัญหา เป็นต้น

      นอกจากนั้นมีการประเมินความพร้อมก่อนบวชเพื่อเลิกสุรา มีระบบบันทึกข้อมูลการดูแลโดยเป็นการประสานความร่วมมือ ส่งต่อข้อมูลการดูแลผู้ป่วยระหว่างโรงพยาบาลสวนปรุง และโรงพยาบาลจอมทอง รวมถึงมีระบบการติดตามหลายรูปแบบ ได้แก่ การไปเยี่ยมสมาชิกที่สำนักสงฆ์ถ้ำตอง การสร้างกลุ่มช่วยเหลือกันเองโดยชมรมจิตอาสา การนัดผู้ป่วยมารับการติดตามที่โรงพยาบาลจอมทอง เป็นต้น

หากมีปัญหาหรือข้อสงสัย โทรมาคุยกับเราได้ที่ สายด่วน 1413  ศูนย์ปรึกษาปัญหาสุราทางโทรศัพท์

9 อุปนิสัยที่ทำให้เลิกเหล้าได้สำเร็จ

9 อุปนิสัยที่ทำให้เลิกเหล้าได้สำเร็จ
 http://www.1413.in.th/uploads/%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B9%89/%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B9%87%E0%B8%94%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%AB%E0%B8%A2%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%94%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%A1/9%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%9B%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%AA%E0%B8%B3%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B9%87%E0%B8%88.jpg

      อุปนิสัย คือ แบบแผนพฤติกรรมที่เกิดขึ้นซ้ำๆจนเคยชิน  อุปนิสัยที่ดีมีส่วนเสริมให้ผู้ป่วยประสบความสำเร็จ มีความสุข และมั่นคงทางจิตใจ  อุปนิสัยเป็นสิ่งที่เรียนรู้ได้  บ่มเพาะให้มากขึ้นได้  โดยการประพฤติปฏิบัติบ่อยๆจนเกิดความเคยชิน   อุปนิสัยที่พึงประสงค์และเอื้อต่อการประสบความสำเร็จในการเลิกสุรา  มีดังนี้
  1. อุปนิสัยยอมรับความจริง
    การยอมรับความจริงว่าเรามี ปัญหาชีวิต  จิตใจก็จะสงบลง  เป็นการเปิดโอกาสให้เราได้พิจารณาปัญหาอย่างที่มันเป็นจริง  ก็ทำให้เรามีโอกาสเห็นทางออกของการแก้ปัญหาได้มากขึ้น
  2. อุปนิสัยสตินิยม
    ชีวิตที่ผ่านมา  เรามักปล่อยให้อารมณ์และความอยากครอบงำ ทำอะไรไปตามอารมณ์และความอยาก เราจะสุขได้ก็ต้องทุกข์ก่อน จึงเรียกได้ว่า มีชีวิตที่ติดลบ แต่หากชีวิตเรามีสตินำ อยู่กับปัจจุบัน  รู้เท่าทันอารมณ์และความอยาก  จิตเป็นอิสระและสงบ มีความสุขที่เกิดขึ้น ก็เรียกได้ว่า  มีชีวิตที่เป็นบวก  ความคิดและการกระทำก็เป็นเหตุผล
  3. อุปนิสัยซื่อสัตย์เปิดเผยความจริง
    การกระทำความผิด ทำให้คนเราปิดบังซ่อนเร้น  พูดไม่จริงเพื่อเอาตัวรอด  ส่วนลึกในจิตใจก็ไม่เคารพนับถือตนเองที่ได้ทำผิดไป และไม่ซื่อสัตย์  การที่คนเรามีความซื่อสัตย์  เปิดเผยความจริง  กล้ายอมรับผิด  โดยเฉพาะกับคนใกล้ชิดที่จริงใจ และพร้อมที่จะช่วยเหลือเรา  ก็จะเอื้อต่อการแก้ปัญหาต่อไป
  4. อุปนิสัยกล้าคิดและกล้าทำ
    ช่วยทำให้เราประสบความ สำเร็จ  มีความรับผิดชอบในตนเอง  เกิดความภาคภูมิใจ  และมีความเชื่อมั่นว่าเราทำได้  เราอาจเริ่มต้นจากการใช้ปัญญาพิจารณาถึงเป้าหมายในชีวิตที่ดีงามก่อน  มองหาหนทางปฏิบัติ  และลงมือทำ  เรียนรู้จากข้อผิดพลาด  พร้อมกับให้กำลังใจตนเองเมื่อทำได้
  5. อุปนิสัยเป็นคนมีอารมณ์ขัน
    การมีอารมณ์ขันช่วยให้ เรามีมุมมองที่แตกต่างออกไป  โดยเฉพาะพฤติกรรมบางอย่างของตนเอง  ทำให้เรายอมรับตนเองได้มากขึ้น  ว่าเราเองก็ไม่ได้เก่ง ไม่ได้ดีไปทุกๆเรื่อง  บางอย่างก็ดูตลกขบขัน  อารมณ์ขันยังช่วยให้เราผ่อนคลายในสถานการณ์ที่ตึงเครียดได้  ช่วยให้เรามีความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อื่น
  6. อุปนิสัยแห่งการให้อภัย
    การสะสมความโกรธเครียดแค้น ไม่เป็นประโยชน์ต่อจิตใจเลย  การละวางจากอารมณ์โกรธ  แล้วให้อภัยแก่ผู้ที่กระทำไม่ดีกับคุณ  แถมยังแผ่เมตตาให้อีก  จิตใจของคุณก็จะกลับเป็นสุขอย่างมหัศจรรย์ ที่สุดของการให้อภัย  ก็คือ  การให้อภัยตนเอง   เป็นการยอมรับตนเองได้ว่าเราก็ไม่ได้ดีสมบูรณ์ไปทุกๆอย่าง  สามารถกระทำผิดได้เช่นเดียวกับคนอื่นๆ
  7. อุปนิสัยชอบเข้าหากัลยาณมิตร
    ในการแก้ปัญหา  บางครั้งเราไม่สามารถแก้มันได้เพียงลำพัง  เราอาจต้องอาศัยปัญญาของผู้อื่นช่วยชี้นำทาง  ที่สำคัญเราควรพิจารณาดูว่าผู้ใดสามารถเป็นกัลยาณมิตรในเรื่องต่างๆของเรา ได้
  8. อุปนิสัยเป็นคนที่รับผิดชอบ
    การโทษสิ่งอื่นว่าเป็น สาเหตุของปัญหา เป็นอุปสรรคต่อการเลิกสุรา  การที่เรารับผิดชอบต่อพฤติกรรมของตัวเราเอง  โดยยอมรับว่าเราเป็นผู้กระทำมันเอง  หากกระทำผิดก็ยอมรับว่าผิด   และขอโทษผู้อื่นอย่างจริงใจ  จิตใจเราก็จะสบายขึ้น  เกิดความเคารพนับถือตนเอง  มีความระมัดระวังในการกระทำของตนเองมากขึ้น  อีกทั้งคนอื่นก็เกิดความเชื่อมั่นในตัวเราว่าเรามีความจริงใจในการแก้ปัญหา  โอกาสประสบความสำเร็จก็มีมากกว่า
  9. อุปนิสัยห่วงใยใส่ใจในสุขภาพของตนเอง
    ร่างกายเป็น ที่ตั้งของจิตใจ  หากร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์  ก็ส่งผลให้จิตใจสมบูรณ์  การทำนุบำรุงสุขภาพตนเองสามารถกระทำได้โดยการหมั่นหาความรู้เพิ่มเติมเกี่ยว กับการดูแลสุขภาพ  การออกกำลังกาย  การเล่นกีฬา  การรับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์  การหลีกเลี่ยงสุรายาเสพติด
หากมีปัญหาหรือข้อสงสัย โทรมาคุยกับเราได้ที่ สายด่วน 1413  ศูนย์ปรึกษาปัญหาสุราทางโทรศัพท์

วิถีชีวิตที่เป็นอยู่ดีในการเลิกเหล้า

วิถีชีวิตที่เป็นอยู่ดีในการเลิกเหล้า
http://www.1413.in.th/uploads/%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B9%89/%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B9%87%E0%B8%94%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%AB%E0%B8%A2%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%94%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%A1/%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%96%E0%B8%B5%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%A3%E0%B8%B2.jpg
      ช่วงที่ผ่านมาของการดื่มสุรา  สุรามักทำให้ชีวิตของผู้ป่วยตกต่ำ  และเคยชินกับการใช้สุราเป็นทางออก  เปรียบเสมือนสุราเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต  ดังนั้น การเลิกสุรา ไม่ใช่เพียงแค่หยุดดื่มสุราเท่านั้น  ผู้ป่วยควรปรับปรุงเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตที่เป็นอยู่ดีต่อสุขภาพ และการสร้างความสุขอย่างง่ายๆ  วิถีชีวิตที่เป็นอยู่ดี มีดังต่อไปนี้
      การผ่อนคลายความเครียดอย่างเป็นธรรมชาติ   เมื่อผู้ป่วยใช้สุราเป็นทางออก และสุราเองก็ทำให้สมองพร่องสารแห่งความสุข ทำให้ความสุขเกิดขึ้นได้ยาก  ดังนั้น  ผู้ป่วยควรหาหนทางผ่อนคลายตามธรรมชาติมาทดแทน เพื่อให้เกิดความสุขได้ง่ายๆ และไม่สิ้นเปลือง เช่น กิจกรรมดนตรี, กีฬา, ศิลปะ, การออกกำลังกาย, การปฏิบัติธรรม และงานอดิเรกต่างๆ  เป็นต้น
      การหมั่นมีสติรู้อยู่กับอารมณ์ปัจจุบัน   ทำให้จิตเป็นอิสระจากอารมณ์  ทำให้จิตไม่เครียด ไม่เหนื่อย จิตเบิกบานมีความสุขได้ง่าย รู้อยู่กับเป้าหมายเลิกสุราในปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องกังวลถึงอนาคตที่ยังมาไม่ถึง หรืออดีตที่ล้มเหลวซ้ำซาก  ควรมุ่งเป้าหมายเพียงแค่วันนี้เราเลิกได้  การฝึกสติสามารถทำได้หลากหลายวิธีการ ผู้ป่วยอาจเลือกวิธีการที่เหมาะสมกับตัวเอง เช่น การนอนให้เต็มอิ่ม  เพราะสุราทำให้การนอนไม่มีคุณภาพ    หลับๆตื่นๆ  ฝันมาก นอนไม่หลับ  เวลานอนไม่เพียงพอ   นอนไม่เป็นเวลา ดังนั้น ผู้ป่วยควรปรับการนอนให้กลับเป็นปกติ โดยนอนให้เป็นเวลา ทำใจให้สงบก่อนเข้านอน ไหว้พระ สวดมนต์ ทำสมาธิก่อนเข้านอน หลีกเลี่ยงชาและกาแฟ  จัดสิ่งแวดล้อมให้เอื้อต่อการนอน ไม่มีเสียงดัง อากาศถ่ายเทสะดวก เป็นต้น
      การรับประทานอาหารอย่างเหมาะสม  ผู้ป่วยควรเลือกรับประทานอาหารที่มีคุณค่าครบทั้ง 5 หมู่  และปริมาณที่เพียงพอ ควรรับประทานอาหารที่ย่อยง่าย หลีกเลี่ยงอาหารมัน เนื่องจากระบบทางเดินอาหารและตับอาจจะยังทำงานไม่ดี  ควรดื่มน้ำหวานชดเชยเพื่อให้พลังงานกับร่างกาย  เคี้ยวอาหารให้ละเอียด รับประทานอาหารช้าๆอย่างมีสติ
      สำหรับในเรื่องการจัดการหนี้สินและปัญหาทางกฎหมาย  ผู้ป่วยควรทำใจยอมรับความผิดพลาดในอดีต ให้มองมันเป็นบทเรียน และมุ่งมั่นทำสิ่งต่างๆให้ดีขึ้น  ผู้ป่วยควรทบทวนรายรับรายจ่ายให้มีความสมดุล  จัดระเบียบการใช้จ่าย จัดการเรื่องหนี้สิน  ปรึกษาผู้รู้ทางกฎหมายเพื่อจัดการเรื่องคดีความ  ระมัดระวังการกระทำความผิดเพิ่มขึ้น หากเราฟันผ่ามันไปได้ เราจะเคารพนับถือตนเอง อนาคตก็จะมั่นคงขึ้น
      การบริหารจัดการเวลาในแต่ละวัน   ขณะที่ผู้ป่วยเลิกสุรา เวลาระหว่างวันจะเหลือเพิ่มขึ้น ควรวางแผนกิจกรรมที่เป็นประโยชน์และให้ความสุขใจ นอกเหนือจากงานการที่จะต้องทำ เพื่อไม่ให้ตนเองว่างและเบื่อเซ็ง ความอยากดื่มสุราก็จะลดลง
หากมีปัญหาหรือข้อสงสัย โทรมาคุยกับเราได้ที่ สายด่วน 1413  ศูนย์ปรึกษาปัญหาสุราทางโทรศัพท์

เคล็ดลับการหยุดดื่ม การป้องกันการเสพติดสุราซ้ำ

การป้องกันการเสพติดสุราซ้ำ
http://www.1413.in.th/uploads/%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B9%89/%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B9%87%E0%B8%94%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%AB%E0%B8%A2%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%94%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%A1/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9B%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%9E%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8B%E0%B9%89%E0%B8%B3.jpg
      ปัญหาใหญ่ของการเลิกสุราไม่สำเร็จ คือการกลับไปดื่มสุราซ้ำในช่วง 6-12 เดือนแรกค่อนข้างสูง เนื่องจากสมองยังไวกับสุราอยู่มาก ผู้ป่วยยังมีอารมณ์เครียดได้ง่ายๆ สิ่งแวดล้อมก็ยังมีตัวกระตุ้น และสิ่งเร้าอยู่มาก ทำให้กลับไปดื่มสุราซ้ำ และล้มเหลวซ้ำซาก จนท้อใจ และเลิกความพยายามในการเลิกสุราไปในที่สุด  ทำให้ความเชื่อมั่นในตนเอง และความเคารพในตนเองมีแนวโน้มที่จะแย่ลงเรื่อยๆ  ดังนั้น หากผู้ป่วยและญาติเรียนรู้เรื่องปัจจัยที่ทำให้เสพติดสุราซ้ำ ก็จะทำให้มีโอกาสในการป้องกันการกลับไปดื่มซ้ำได้ดียิ่งขึ้น   ผู้ป่วยก็จะประสบความสำเร็จในการเลิกสุราได้มากยิ่งขึ้น

      จากการศึกษาทางการแพทย์  พบว่า ปัจจัยที่มักทำให้เสพติดสุราซ้ำ มีดังต่อไปนี้
  1. ยังคงมีการดื่มสุราอยู่บ้าง  เนื่องจากผู้ป่วยอาจไม่ได้มีเป้าหมายหยุดดื่มทั้งหมดตั้งแต่ต้น  ผู้ที่เสพติดสุรามักมีสมองที่ไวกับสุรา  ปริมาณแอลกอฮอล์เพียงเล็กๆน้อยๆ   ก็สามารถกระตุ้นให้คิดถึง และอยากสุราได้มาก ทำให้ดื่มแบบติดลม และกลับไปติดซ้ำในที่สุด ดังนั้น ผู้ป่วยควรตั้งเป้าหมายหยุดดื่มทั้งหมด จะทำให้ประสบความสำเร็จมากกว่า
  2. ปัญหาทางอารมณ์ที่ไม่ดี จะกระตุ้นให้อยากสุรา และกลับไปดื่มในที่สุด  ดังนั้น ผู้ป่วยควรดูแล และหาทางผ่อนคลายอารมณ์ที่ส่งเสริมสุขภาพและไม่สิ้นเปลือง เช่น กิจกรรมดนตรี, กีฬา, ศิลปะ, การออกกำลังกาย และงานอดิเรกต่างๆที่ให้ความสุขใจ
  3. ปัญหาทางความสัมพันธ์  ความสัมพันธ์ที่เป็นปัญหาก่อให้เกิดความเครียด ซึ่งอาจเป็นเหตุหรือผลมาจากการดื่มสุราก็ได้  เช่น ปัญหาชีวิตคู่ ครอบครัว การเลี้ยงดูบุตร หนี้สิน การงาน เป็นต้น หากสามารถหาทางคลี่คลายไปในทางที่ดีได้ ก็จะทำให้ความเสี่ยงในการกลับไปติดซ้ำลดลง
  4. แรงกดดันทางสังคม  เป็นปัจจัยที่ทำให้ผู้ป่วยต้องเผชิญกับสุราโดยตรงในขณะที่ต้องเลิกสุรา ทำให้ยากต่อการเลิกสุรา เช่น อาชีพที่ต้องอยู่ใกล้ชิดสุรา การเข้าสังคมกับกลุ่มเพื่อนที่ดื่มสุรา เป็นต้น ผู้ป่วยควรหลีกเลี่ยง โดยเฉพาะในช่วงเริ่มต้นของการเลิกสุรา
  5. ตัวกระตุ้นและสิ่งเร้าที่เป็นเงื่อนไขที่ทำให้คิดถึงสุรา  สุราทำให้สมองจดจำสิ่งแวดล้อมที่อยู่รอบๆของการดื่มสุรา ดังนั้น ในช่วงของการเลิกสุรา  เมื่อเผชิญกับสิ่งแวดล้อมดังกล่าวก็ทำให้ระลึกถึงสุราโดยอัตโนมัติ  เช่น ขวดเหล้า ร้านค้าสุรา วงเหล้า งานเลี้ยงสังสรรค์ต่างๆ ภาพยนตร์ที่มีฉากการดื่มสุรา  การพูดคุยถึงเรื่องสุรา  สถานที่และวันเวลาที่ดื่มเป็นประจำ เป็นต้น   ดังนั้น  ผู้ป่วยควรหลีกเลี่ยงสิ่งแวดล้อมเหล่านี้  แทนที่จะเผชิญเพื่อเป็นการวัดใจ
หากมีปัญหาหรือข้อสงสัย โทรมาคุยกับเราได้ที่ สายด่วน 1413  ศูนย์ปรึกษาปัญหาสุราทางโทรศัพท์

วิธีเลิกเหล้าด้วยตนเอง วิธีลดปริมาณการดื่ม

วิธีเลิกเหล้าด้วย วิธีลดปริมาณการดื่ม
http://www.1413.in.th/uploads/%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B9%89/%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B8%95%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B8%87/%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B8%A5%E0%B8%94%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%93%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%94%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%A1.jpg
      การดื่มสุราลดลง จะทำให้สุขภาพดีขึ้น ความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆก็ลดลงตาม หรือโรคที่เป็นอยู่สามารถควบคุมได้ดีขึ้น และอาจเป็นอีกหนทางหนึ่งในการหยุดดื่มสุราอย่างเด็ดขาดต่อไป อย่างไรก็ตาม พึงระลึกไว้เสมอว่า ไม่มีปริมาณการดื่มใดที่ไม่เสี่ยง และผู้ที่อยู่ในขั้นติดสุราแล้วมักจะไม่ประสบความสำเร็จในการลดปริมาณการ ดื่มลง การหยุดดื่มสุราทั้งหมดจะทำให้ประสบความสำเร็จในการเลิกระยะยาวมากกว่า องค์การอนามัยโลกได้ทำการศึกษาปริมาณการดื่มสุราที่เป็นอันตราย ดังนั้น ผู้ที่ต้องการลดปริมาณการดื่มลง ควรลดปริมาณการดื่มให้ต่ำกว่าปริมาณการดื่มสุราที่เคยดื่ม
วิธีการลดปริมาณการดื่มให้สำเร็จ  มีแนวทางดังต่อไปนี้
  1. กำหนด และจำกัดปริมาณที่จะดื่ม  แล้วให้ดื่มช้าๆ เพื่อจะได้มีสติในการยั้งคิด
  2. ทานอาหารก่อนดื่ม หรือดื่มพร้อมอาหาร ทำให้การดูดซึมของแอลกอฮอล์ช้าลง
  3. หลีกเลี่ยงอาหารรสเค็ม เพราะจะทำให้กระหายน้ำ จนต้องดื่มบ่อยขึ้น
  4. เลือกเครื่องดื่มที่มีความเข้มข้นของแอลกอฮอล์ต่ำ เช่น การดื่มเบียร์แทนสุราหรือไวน์ เป็นต้น
  5. ดื่มแบบผสมให้เจือจาง เพื่อลดความเข้มข้นของแอลกอฮอล์
  6. ดื่มน้ำเปล่าสลับบ้างในระหว่างที่ดื่มสุรา เพื่อทิ้งช่วงในการดื่มให้ห่างขึ้น
  7. วางแผนกิจกรรมที่ให้ความสุขใจอย่างอื่นทดแทน เช่น กิจกรรมดนตรี เล่นกีฬา ทำงานศิลปะ งานอดิเรกต่างๆ ปฏิบัติธรรม โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่เคยดื่มเป็นประจำ
  8. หลีกเลี่ยงกลุ่มเพื่อนที่เคยดื่มด้วยกัน พบปะหรือเข้าร่วมกิจกรรมกับเพื่อนที่ไม่ดื่มแทน
  9. หากถูกชักชวนให้ดื่ม ปฏิเสธโดยตรงว่า “มีปัญหาสุขภาพ หมอสั่งไม่ให้ดื่ม”
  10. ไม่ควรขับขี่ยานพาหนะหลังดื่มสุรา
  11. งดการดื่ม เมื่อมีปัญหาสุขภาพเกิดขึ้น และไม่ควรดื่มสุราเมื่อมีการทานยาทุกชนิด
หากผู้ดื่มไม่ประสบความสำเร็จในการลดปริมาณการดื่มลง ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับความช่วยเหลือต่อไป
หากมีปัญหาหรือข้อสงสัย โทรมาคุยกับเราได้ที่ สายด่วน 1413  ศูนย์ปรึกษาปัญหาสุราทางโทรศัพท์

วิธีเลิกเหล้าด้วยตนเอง วิธีหักดิบ

วิธีเลิกเหล้าด้วย วิธีหักดิบ
http://www.1413.in.th/uploads/%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B9%89/%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B8%95%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B8%87/%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B8%AB%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B8%9A.jpg

      การหยุดดื่มสุราโดยทันทีเหมาะสำหรับผู้ดื่มที่ไม่มีอาการถอนพิษสุราในช่วง เช้าหลังตื่นนอน เช่น คลื่นไส้ อาเจียน มือสั่น ใจสั่น เหงื่อแตก เป็นต้น และไม่เคยมีอาการถอนพิษสุราที่รุนแรงหลังหยุดดื่มสุรา เช่น อาการชัก กระสับกระส่ายอย่างรุนแรง สมองสับสน หูแว่ว ประสาทหลอน เป็นต้น เนื่องจากความเสี่ยงต่อการถอนพิษสุราอย่างรุนแรงมีไม่มาก
      และผู้ดื่มที่หยุดดื่มโดยทันที ควรติดตามอาการของตนเอง โดยเฉพาะในช่วง 3 วันแรก หากมีอาการคลื่นไส้ อาเจียนรุนแรง มือสั่น ใจสั่น เหงื่อแตก หงุดหงิดกระสับกระส่ายเพิ่มมากขึ้น ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อช่วยบำบัดในการถอนพิษสุรา
      สำหรับผู้ที่เลิกดื่มในช่วงเริ่มต้น ควรรับประทานอาหารให้เพียงพอ อาจจิบน้ำหวานบ่อยๆเพื่อเพิ่มพลังงานให้แก่ร่างกาย หลีกเลี่ยงอาหารมัน เนื่องจากตับอาจจะยังทำงานได้ไม่ดี รับประทานวิตามิน B1- 6 -12 ชดเชยครั้งละ 1 เม็ด วันละ 3 ครั้งหลังอาหาร นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ พยายามกระทำกิจกรรมที่ให้ความสุขใจ, ไม่ปล่อยให้ตนเองว่าง, ผ่อนคลายความเครียดด้วยดนตรี, เล่นกีฬาเบาๆ, ทำงานศิลปะ เป็นต้น หลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่เสี่ยงหรือเป็นตัวกระตุ้นเร้าให้อยากดื่ม เช่น ร้านขายเหล้า, เพื่อนที่ดื่ม เป็นต้น บอกกับบุคคลในครอบครัว และคนใกล้ชิดว่าตนเองกำลังเลิกสุรา ช่วยเป็นกำลังใจให้ด้วย และปฏิเสธเพื่อนที่มาชวนดื่มว่า ตนเองกำลังมีปัญหาโรคตับ หมอสั่งให้งดการดื่ม หากผู้ดื่มเป็นผู้ที่สูบบุหรี่ด้วย ควรควบคุมปริมาณบุหรี่ที่สูบไม่ให้เพิ่มมากขึ้น หรือหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่เป็นทางออก
หากมีปัญหาหรือข้อสงสัย โทรมาคุยกับเราได้ที่ สายด่วน 1413  ศูนย์ปรึกษาปัญหาสุราทางโทรศัพท์


Saturday, January 5, 2013

เหล้า ผลกระทบต่อสังคม

ผลกระทบต่อสังคม


เหล้ามีผลกระทบต่อสังคมอยู่มาก
             มีการวิจัยพบว่า เมื่อเกิดการฆาตกรรมแล้วผ่าศพพิสูจน์และเอาคนที่มีเรื่องกันมาตรวจ จะพบว่าในร่างกายจะมีสารเหล้าอยู่เสมอ เพราะเกือบ 60 เปอร์เซ็นต์ของกรณีฆาตกรรม เหล้าจะเป็นตัวประกอบที่สำคัญอยู่ด้วย
             ตำรวจอเมริกันชนไม่ชอบเข้าเวรคืนวันศุกร์คืนวันเสาร์ เพราะคนหยุดงานมักจะพักผ่อนด้วยการดื่มเหล้า แล้วก่อเหตุทะเลาะวิวาททำร้ายร่างกายกันเป็นประจำ เมื่อมีเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้นอยู่เสมอ ตำรวจก็ต้องทำงานหนักเพิ่มขึ้น
             เหล้ามีผลกระทบต่อสมองส่วนหน้า ซึ่งเป็นส่วนที่ควบคุมสติปัญญาและการตัดสินใจ และยังควบคุมความฉับไวในการปฏิบัติการในช่วงกะทันหันด้วย

          

  เหล้ามีบทบาทต่อการก่อให้เกิดอุบัติเหตุ เพราะคนเมาเหล้าที่ขับรถก็เหมือนคนบ้าคลั่งที่มีอาวุธร้ายอยู่ในมือ สามารถจะฆ่าชีวิตอันบริสุทธิ์ของผู้คนได้ง่าย
             ในประเทศสหรัฐอเมริกาจึงมีหน่วยประชาชนตั้งขึ้นเป็นกลุ่ม สำหรับคอยรายงานรถราที่ขับโดยคนเมาเหล้าให้ตำรวจจับ นับว่าเป็นการช่วยกันลดอุบัติเหตุลงไปด้วย
             บางครั้งเราอาจจะนึกไม่ถึงว่า เหล้ามีผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตในครอบครัว คือไม่จำเป็นจะต้องดื่มเหล้าจนติด เพียงแค่ชอบใช้ เวลาให้กับการดื่มเหล้า ก็หมายถึงว่าใช้เวลาให้กับครอบครัวน้อยลง ความอบอุ่นในชีวิตครอบครัวก็จะไม่มี ถึงมีก็น้อยมาก
             แต่ถ้าดื่มเหล้ามากขึ้น ศูนย์บังคับจิตใจอาจจะเสียไป จะทำให้เกิดความก้าวร้าวถึงกับทุบตีลูกเมียได้


             พบว่า ผู้ที่ฆ่าตัวตายนั้น ครึ่งต่อครึ่งฆ่าตัวตายไม่สำเร็จ ถ้าไม่ได้ดื่มเหล้าให้เกิดความกล้า
             นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเยลและมหาวิทยาลัยเพนซิลวาเนียได้ค้นพบวงจรของการติดเหล้าสำเร็จ นั่นคือ
             เมื่อเหล้าเข้าสู่สมองส่วนกลางแล้ว มันจะออกฤทธิ์ ทำให้เกิดมีอาการเบิกบานใจ คลายความทุกข์ร้อนใจ มีความกล้าเพิ่มขึ้น
             เมื่อร่างกายขาดเหล้า ทำให้เกิดความกระหาย อยากจะดื่มเหล้าขึ้นมาทันที

ปรัชญาว่าด้วยการดื่มสุรา!!!!!



ปรัชญาว่าด้วยการดื่มสุรา!!!!!

คนไทยกินข้าวเจ้า คนลาวกินข้าวเหนียว
คนจีนกินก๋วยเตี๋ยว ส่วนฝรั่งเค้าก็ขนมปัง
มนุษย์แต่ละชาติภาษา ต่างมีวิธีการแปรรูปพืชที่ให้แป้ง
มาบริโภคได้ต่างชนิดกันไป แต่ทำไมทุกชนชาติ
ต่างรู้จักที่จะแปรรูปยอดข้าวชนิดหนึ่ง ให้มาเป็นน้ำใสๆที่เรียกว่าสุรา
ได้อย่างเหมือนกันเป๊ะ อย่างกับมีการนัดแนะกันไว้ก่อน
“อันชนใดไม่มีสุราทาน ในสันดานเป็นคนชอบกลนัก
อีกชนใดดื่มสุราไม่มีกับ ชนชาตินั้น อาภัพ อัปลักษณ์เอย”



สุรา รสชาติคล้ายกันทั้งโลก
คุณสมบัติก็เหมือนกัน คือ กินแล้วเมาเหมือนกันหมด
คนที่ดื่มสุรามากๆ มักจะมีคอแข็งแกร่งประดุจเหล็กไหล
แล้วทำไมต้องเลือกกินเหล้านอก เหล้าป่าก็เมาเหมือนกันนะพ่อคุณ


การสังสรรค์ในหมู่ชายฉกรรจ์ ถ้าขาดสุราไป
ก็คล้ายกับการสั่งเกาเหลาไม่เอาน้ำ การสนทนาในวงเหล้า
จะทวีความมันส์ เมื่อสุราเริ่มทยอยเข้าปากไป 
ไอ้คนที่เพิ่งรู้จักกัน ก็จะสนิทดั่งญาติมิตรชนิดตายแทนกันได้
การพูดจาก็จะดังระงมคล้ายมีไมค์มาจ่อปาก
และอาการทั้งหมดจะสงบลง เมื่อบิลเก็บตังค์มา
การดื่มสุราเอาสนุก บางทีก็ไม่จำเป็นต้องเมา


โดยเฉพาะผู้ชาย ยามเมาแล้วไม่ค่อยน่าคบ
เพราะมักมีวิญญาณ โผน กิ่งเพชร เข้าสิง
อยากบู๊ท่าเดียว พวกนี้อันตราย
ส่วนรายไหนเมาแล้วใจป้ำ ควักตังค์จ่ายเป็นระวิง อันนี้ท่านว่า น่าคบ

ผู้หญิงก็คน ใช่ว่าจะเมาไม่เป็น พอเมาถึงจุด
จะมีคำพูดประจำว่า “ชั้นไม่มาว แต่ไม่เหมือนเดิม”
ส่วนคำพูดแรกหลังจากถูกจิบ คือ “นายมารถอะไร”
การดื่มสุราในงานวันเกิด เจ้าภาพจะกลายเป็นบุคคลสำคัญ
จะตดจะเรอก็ไม่มีใครว่า พูดจาอะไรก็ถูกก็ดีไปหมด
แต่คนเป็นเจ้าภาพมักไม่ค่อยสนุก เพราะต่างรู้ชะตากรรมว่า มื้อนี้กูแน่ๆ
สิ่งที่ขาดไม่ได้ในการดื่มสุรา ก็คือการชนแก้ว
อันนี้ไม่เหมาะกับพวกมือตีนหนัก แก้วอาจร้าวบาดปากได้
การชนแก้วอย่างถูกวิธี อาจทำให้คุณได้เบอร์แม่หญิงโต๊ะข้างๆ




สูตรต่างๆ ในการมิกซ์สุรา
4-4-2 ( โซดา-น้ำ-สุรา ) เป็นสูตรเฉพาะของเฟอร์กี้ หลังปึ้ก กลางเปรี๊ยะ หน้าหวดเพี้ย เหมาะสำหรับท่านที่ดื่มเรื่อยๆ หวังเก็บแต้มเสมอนอกบ้าน

4-3-3 ( โซดา-น้ำ-สุรา ) เป็นสูตรเด็ดของแวนเกอร์ หลังขาด กลางขึง หน้าตะบึง เหมาะสำหรับท่านที่ดื่มเอามันส์ หวังเก็บสามแต้มเต็ม

3-5-2 ( โซดา-โค้ก-สุรา ) เป็นสูตรลับของอุลลิเยร์ หลังเสียบ กลางซ่า หน้าซิ่ง เหมาะสำหรับสตรีและกระเทย

4-4-2 defense ( น้ำแดง-เหล้าขาว-ลิโพ ) อันนี้ปีเตอร์ วิธ ช้อบชอบ ทานง่าย ประหยัดงบ และส่งเสริมเอกลักษณ์ไทยๆ

สุรา มีชื่อสามัญว่า เหล้า คำว่า สุรา อาจจะมาจาก สุระ ที่แปลว่า ยิ่งใหญ่
เพราะเห็นใครๆสุราเข้าปากไป มักจะยิ่งใหญ่คับโต๊ะเกินกว่าบุคคลธรรมดา
ร่างกายของคนเรา ทางพระเรียกว่า อินทรีย์ธาตุ
รับความรู้สึกผ่านทางทวารทั้งห้า คือ ตา หู จมูก ลิ้น และกาย

โดยมีประสาทเป็นผู้สั่งการ สิ่งที่เรารับเข้าทางทวารทั้งห้า
ทางพระเรียกว่า ทุกขัง คือ สภาพจริงที่ทนได้ยาก
การดื่มสุราเข้าไปมากๆ จะทำให้ประสาทสั่งการได้ช้าลง
เพราะสุรามีฤทธิ์กดประสาท ส่งผลให้ทวารทั้งห้าทำงานได้ช้าลงไปด้วย
คนเราก็รับทุกขังได้น้อยลง เมื่อคนเราขาดทุกขัง ก็เหมือนขาดสภาพจริงที่ทนได้ยาก

เหลือแต่จิตเปล่าๆ เวลาสนุกก็สนุกสุดๆ ทุกข์ก็ทุกข์สุดๆ
รวมทั้ง โมโห โกรธ กล้า ก็จะมากกว่าคนในภาวะปกติ


โกวเล้ง ปราชญ์แห่งการสุรา ยังกล่าวไว้ว่า
“ข้ามิได้พึงใจในรสชาดสุรา แต่ข้าพึงใจในบรรยากาศของการร่ำสุรา”
เฮียฮ้อ ก็ออกมาย้ำว่า “อย่าอุดหนุน สุราผี โซดาเถื่อน”
น้าหมัก ก็สนับสนุนว่า “การดื่มสุราทำให้ความสามารถในการจีบหญิงเพิ่มขึ้น”


สิทธิที่ซ่อนเร้น...ในการยกเว้นภาษี

สิทธิที่ซ่อนเร้น...ในการยกเว้นภาษี


           
                                                       
สิทธิที่ซ่อนเร้น....ในการยกเว้นภาษี
                        ในการเดินทางเข้าออกระหว่างประเทศ มีบุคคลที่ท่านต้องเจอ
ทั้งๆที่ไม่อยากเจอสักเท่าไหร่ อยู่จำนาน 3 พวกด้วยกันนั้นก็คือ Immigration,
 Customs และ Quarantine.........Immigration นั้นก็คือ เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้า
เมือง หรือที่เราเรียกย่อๆว่า ตม.  มีหน้าที่ตรวจหนังสือเดินทางของเรา และมี
อำนาจที่จะให้เราเข้าประเทศหรือไม่เข้าประเทศก็ได้  Customs คือ ศุลกากร 
มีหน้าที่ตรวจตราสินค้าหรือของที่ติดตัวมากับเรา ว่ามีของอันใดที่เป็นของต้องห้าม,
 ของต้องกำกัดหรือของต้องเสียภาษีอากร หรือไม่? ส่วน Quarantine นั้นเป็น
เจ้าหน้าที่จากหลายฝ่ายรวมกัน ทั้งหมอ ด่านตรวจพืช ด่านตรวจสัตว์ มีหน้าที่กัก
กันตัวเราหรือพืชผักสัตว์สิ่งของที่นำเข้ามา ซึ่งตรวจสอบแล้วว่ามีเชื้อโรค หรือแมลง
 หรือสัตว์ที่เป็นอันตรายปะปนติดตัวเข้ามา ท่านจะอยากเจอหรือไม่อยากเจอ ทุก
ด่านที่มีการผ่านเข้าออกระหว่างประเทศ ไม่ว่าที่ใดในโลกท่านก็จะต้องพบบุคคล
ทั้ง 3 จำพวกนี้
                
                          แต่ในฐานะที่เป็น ศุลกากร วันนี้ผมจะเล่าเรื่อง สิทธิใน
การยกเว้นภาษีอากรแก่ของที่ท่านนำติดตัวเข้ามา ว่ามีสิ่งใดบ้าง เผื่อท่านจะ
ได้นำไปเป็นความรู้ ไว้เถียงกับเจ้าหน้าที่ศุลกากรได้ หากเจ้าหน้าที่เขาจะเก็บ
ภาษีท่าน สิทธิในการยกเว้นภาษีอากรแก่ของที่นำติดตัวเข้ามาในประเทศไทย
มีกล่าวไว้ใน พระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ.2530 ในภาค 4 ประเภท
 5 ว่า
                        ของส่วนตัวที่เจ้าของนำเข้ามาพร้อมกับตนสำหรับใช้เอง
หรือใช้ในวิชาชีพและมีจำนวนพอสมควรแก่ฐานะ เว้นแต่รถยนต์ อาวุธปืนและ
กระสุนปืน และเสบียง แต่สุรา บุหรี่ ซิการ์ หรือยาเส้น ซึ่งเป็นของส่วนตัวที่ผู้
เดินทางนำเข้ามาพร้อมกับตนนั้น อธิบดีกรมศุลกากรอาจออกข้อกำหนดยกเว้น
อากรให้ได้ตามที่เห็นสมควรเป็นแห่งๆ ไป แต่ต้องไม่เกินปริมาณดังนี้
(ก)         บุหรี่สองร้อยมวน หรือซิการ์หรือยาเส้นอย่างละสองร้อยห้า
สิบกรัม หรือหลายชนิดรวมกันมีน้ำหนักทั้งหมดสองร้อยห้าสิบกรัม แต่
ทั้งนี้บุหรี่ต้องไม่เกินสองร้อยมวน
(ข)        สุราหนึ่งลิตร 

                       จากกฎหมายข้อนี้ก่อให้เกิดสิทธิยกเว้นภาษีอากร อย่าง
ใหญ่หลวงแก่ท่านก็คือ ของส่วนตัว ไม่ใช่ ของใช้ส่วนตัว นะครับ ของส่วน
ตัวกินความมากไปกว่าของใช้ส่วนตัวหลายเท่า มันมีที่มาที่ไปอยู่ว่าเดิมกฎหมาย
ก็ใช้คำว่า ของใช้ส่วนตัว นี่แหละครับ แต่ปรากฏว่ามันไปมีปัญหากับ นักท่อง
เที่ยวชาวยุโรปจำนวนมาก เพราะชาวยุโรปนั้นนิยมที่        จะเลี้ยงสัตว์ประเภท
สุนัข แมว แล้วก็มักนำติดตัวเข้ามา   สุนัขหรือแมว ก็ถูกตีความว่าเป็น ของใช้
ส่วนตัวหรือไม่? ซึ่งเมื่อไม่ใช่ ของใช้ส่วนตัว ก็เลยก่อให้เกิดปัญหาว่า จะต้อง
เก็บภาษีหรือจะทำประการใดเพราะเจ้าของเองก็ไม่ได้ตั้งใจจะนำเข้ามาไว้ในประ
เทศไทย เพียงแต่นำติดตัวเข้ามาแล้วก็จะนำกลับไปเมื่อเดินทางออกนอกประเทศ
ก็เลยต้องไปดำเนินการเข้าประเภทพิธีการนำของเข้าชั่วคราว          ต้องทำใบ
ขนสินค้าวางประกัน ต้องวางเงินประกันค่าภาษีอากร แล้วเมื่อเดินทางออกจึงจะ
ขอถอนเงินประกันค่าภาษีอากร ยุ่งยากวุ่นวายเป็นหนักหนา ทั้งที่ประเทศใน
แถบยุโรปเขาตีความว่าสัตว์เลี้ยงที่นำติดตัวเจ้าของมาก็คือ “Personal Effect”
 หรือที่คนไทยแปลความหมายได้ว่า ของใช้ส่วนตัวนั่นเอง แต่เมื่อเป็นคำไทย
มันก็จะติดอยู่กับคำว่า ใช้ นี่แหละครับ ทำให้ข้องใจว่า หมา แมว มันจะไป
ใช้ได้ยังไง? เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงปรับปรุงพระราชกำหนดพิกัดใหม่ ก็จึง
เปลี่ยนเสียใหม่ว่า ของส่วนตัว ด้วยประการละฉะนี้!!!
              
                                     “ของส่วนตัว นั้นก็เป็นไปได้ทั้งหมดที่บุคคลพึงจะใช้ในชีวิต
ประจำวัน เช่น แว่นตา นาฬิกา เสื้อผ้า รองเท้า เข็มขัด เข็มกลัด สร้อยคอ ต่างหู
 แหวน กำไล กระเป๋าถือ กระเป๋าเดินทาง ยารักษาโรคประจำตัว วิทยุขนาด
พกพา โทรศัพท์มือถือ กล้องถ่ายรูป กล้องถ่ายวิดีโอขนาดพกพา และแม้กระทั่ง
คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คก็เป็น ของส่วนตัว ที่ท่านจะได้สิทธิยกเว้นภาษีอากรตาม
กฎหมายฉบับนี้
                        แล้วอะไรที่ท่านไม่ได้สิทธิยกเว้นตามกฎหมายฉบับนี้บ้าง
หรือเรียกง่ายๆ ของที่กฎหมายบอกว่าไม่ใช่หรือไม่ให้เป็น ของส่วนตัว ก็เช่น
1.รถยนต์
2.อาวุธปืนและกระสุนปืน
3.เสบียง ซึ่งก็คืออาหารทั้งหมด...ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาห้ามทำไม...ก็มันของ
อร่อยของเราบ้านเมืองอื่นมันไม่มีอาหารที่เราชอบอย่างนี้นี่นา...แค่นี้ก็ต้องห้าม
ด้วย....แต่เมื่อกฎหมายเขาห้ามก็อย่าไปเถียงเจ้าหน้าที่เขาละครับว่า....น้ำพริก
แมงดาสุดโปรดของชั้นคุณจะมาเก็บภาษีชั้นได้อย่างไร...พูดกับเขาดีๆเดี๋ยว
เจ้าหน้าที่เขาก็ใจอ่อนเองครับ....ศุลกากรไทยใจดีจะตาย!!!
4.บุหรี่และเหล้า นำเข้าได้ครับยกเว้นภาษีให้ต่อบุคคลไม่เกิน 1 Carton หรือ
 หนึ่งแท่งสำหรับบุหรี่ หรือถ้าเป็นยาเส้น, ซิการ์ก็ไม่เกิน 250 กรัม ถ้านำเข้า
ทั้งบุหรี่ทั้งซิการ์ ยาเส้น ก็รวมกันทั้งหมดไม่เกิน 250 กรัม ส่วนเหล้าไม่ว่าเหล้า
อันใดนะครับ ไม่ว่าจะเป็น ไวน์ ลิเคอร์ วิสกี้ แชมเปญ ว้อดก้า บรั่นดี หรือแม้
กระทั่งเบียร์ ได้แค่ 1 ลิตรครับ หรือคิดง่ายๆก็หนึ่งขวด แต่อย่าได้ทำหัวหมอ
นะครับ ว่าเหล้าชั้นมี 8 ขวด ขวดหนึ่ง 0.75 มิลลิลิตร ชั้นมีสิทธิ 1 ลิตร พวก
ชั้นมากัน 6 คน ชั้นก็ต้องนำเข้าได้ 8 ขวด เดี๋ยวเจ้าหน้าที่เขาหมั่นไส้เอา
ให้เอาถุงมาเทใส่แล้วให้แบกไปส่วนตัวคนละ 1 ลิตร มันจะอายคนอื่นเขาครับ
 วิธีการนี้ผมเจอประจำกับนักท่องเที่ยวชาวเกาหลี ซึ่งมักจะมีหัวหน้าทัวร์ชอบ
ขนเหล้าเข้ามาหลายลัง แล้วก็จะแบ่งๆให้ลูกทัวร์ช่วยกันถือเข้ามา แล้วมักจะมา
เถียงแบบนี้แหละครับ เราทำผิดกฎหมายก็อย่าดื้อด้านเลยครับ เจ้าหน้าที่เอง
เขาก็มีทางออกที่อะลุ่มอล่วยให้ เพราะถึงแม้ว่าตามกฎหมายแล้ว คุณจะต้อง
ถูกดำเนินคดี ถูกปรับถูกยึดนานาประการ ทั้งตามกฎหมายศุลกากรและกฎหมาย
สรรพสามิต แต่ก็ไม่เคยมีเจ้าหน้าที่ศุลกากรไทย เคยทำอย่างนั้น บอกแล้วว่า
ศุลกากรไทยใจดีจะตาย เขาจะมีกล่องให้ครับ ให้ท่านหย่อนเหล้าบุหรี่ที่เกิน
โควต้า เข้ามาในกล่องนั้น แล้วพอหมดเวรเจ้าหน้าที่ศุลกากรก็จะจัดตั้งกรรมการ
ตรวจสอบ เหล้าบุหรี่นั้นแล้ว ยึดไว้เป็นของกลาง ดำเนินคดีในฐานะ ไม่มีผู้
ต้องหา ต่อไป
               

                           นอกจาก ของส่วนตัว ที่กฎหมายจะยกเว้นภาษีอากร
ให้แล้ว กฎหมายยังยกเว้นให้กับของใช้ในวิชาชีพด้วยนะครับ เช่นว่าท่านเป็น
นักข่าวของ เนชั่น ไปทำข่าว ก็ย่อมจะต้องมีอุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือมาก
มาย ทั้งกล้องถ่ายรูปตัวเบ้อเริ่มเทิ้ม เลนส์อีกนับสิบตัว กล้องถ่ายวิดีโอตัว
เท่าถุงไม้กอล์ฟ เครื่องอะไรต่อมิอะไรอีกรุงรังที่ศุลกากรเองก็ไม่รู้จักหรอกครับ
 เครื่องมือเครื่องใช้ในวิชาชีพเหล่านี้ท่านได้รับการยกเว้นอากรครับ สำหรับ
นักดนตรีก็เช่นครับ ถ้าท่านถือกีต้าร์เข้ามาสักตัว แล้วมีหลักฐานแสดงว่าท่าน
เป็นนักดนตรี ศุลกากรก็จะปล่อยผ่านภาษีอากรครับ แต่ถ้าหากท่านเข้ามา
ทั้งวง ขนเครื่องดนตรีกันมาเป็นคอนเทนเนอร์ อันนี้ต้องไปว่ากันในประเภท
ของนำเข้าชั่วคราวนะครับ เรื่องของใช้ในวิชาชีพผมสงสารก็แต่ นักขับรถ
แข่ง ครับ เพราะกฎหมายไม่ถือว่าเป็น ของส่วนตัว ยกเว้นไม่ได้ครับ!!!
                           กฎหมายยังใช้คำว่า พอสมควรแก่ฐานะ คือหมายความ
ว่าของส่วนตัวทั้งหลายแหล่ ที่พูดกันมาทั้งหมดข้างบนนั้น ต้องมีความเป็น พอ
สมควรแก่ฐานะ พูดง่ายๆว่าคนรวยก็สามารถมีของส่วนตัวได้แพงกว่าคนจน
ล่ะครับ ยกตัวอย่างเช่น คุณหญิงพจมาน อาจจะใส่แว่นตาฝังเพชร นาฬิกา
หน้าปัดทองคำขาว ใส่รองเท้าประดับพลอยวูบวาบ เข้ามาได้ โดยที่คุณครูทิพย์
ทำอย่างนั้น อาจถูกศุลกากรจับเสียภาษี ฟังดูอาจไม่ค่อยยุติธรรมนะครับ แต่ว่า
คนรวยก็ไม่อาจจะทำอย่างนั้นได้โดยสะดวกนักหรอกครับ ไม่อาจจะซื้อแหวน
เพชร สร้อยเพชร เข้ามาแล้วไม่เสียภาษีได้ เพราะมันมีคำนิยามอยู่ว่า ของส่วน
ตัว เหล่านั้นจะต้องเป็นของ ใช้แล้ว ครับ พูดง่ายๆก็คือแม้จะนำของมีค่าสูงๆ
เข้ามา แต่ก็ต้องเป็นของใช้แล้วและต้องพิสูจน์ตัวเองด้วยว่าเป็นคนมีฐานะ พอ
สมควรกับสิ่งของที่นำติดตัวเข้ามานั้น
                     
                           อ่านถึงตอนนี้แล้วอาจจะมีปัญหาว่า อ้าว....ชั้นไปเมือง
นอกทั้งทีแล้วชั้นจะซื้ออะไรเข้ามาได้บ้าง?? ศุลกากรไทยเข้าใจคนไทยครับว่า
 ชอบซื้อของฝากของขวัญ  ไปไหนทีก็คิดถึงคนนั้นคนนี้ต้องซื้อของฝาก จน
ไม่เป็นอันเที่ยว ของที่ท่านซื้อเข้ามานั้นหากดูได้ว่าเป็นของที่ไม่มีลักษณะอัน
เป็นสินค้าและมีราคาไม่เกิน..หนึ่งหมื่นบาท..โดยมีหลักฐานการซื้อมาแสดง
ได้รับการยกเว้นภาษีครับ......อะไรคือ ของที่ไม่มีลักษณะอันเป็นสินค้า ???
ก็เช่นว่า....ท่านไม่ได้ซื้อรองเท้าเข้ามาทีละยกโหล หรือไม่ได้ซื้อเสื้อผ้าเข้ามา
ทีละกระสอบ หรือไม่ได้ซื้อน้ำหอมเข้ามาทีละยกแผง แม้มันจะราคารวมกัน
แล้วไม่เกิน หนึ่งหมื่น บาทก็ตาม ถือว่า เป็นของที่มีลักษณะอันเป็นสินค้าครับ
 ต้องเสียภาษีอากรตามระเบียบ ของที่ซื้อเข้ามามากเกิน หนึ่งหมื่น บาท
แม้จะเป็นอย่างละชิ้น เช่น สูทหนึ่งชุด+รองเท้าหนึ่งคู่+กระเป๋าถือหนึ่งใบ+
น้ำหอมหนึ่งขวด+แว่นตาหนึ่งอัน แม้จะเป็นของที่ซื้อเข้ามาเพื่อใช้เอง แต่ถ้า
เกิน-หนึ่งหมื่นบาท-อันนี้ต้องเสียภาษีอากรครับ แต่แยกให้ถูกนะครับถ้าเป็น
ของใช้แล้วไม่นับนะครับ นับเฉพาะของที่ท่านยังไม่ได้ใช้แล้วซื้อเข้ามาครับ
ส่วนข้ออ้างยอดฮิตว่า ซื้อมาเป็นของฝากของขวัญ อันนี้อ้างให้ตาย ก็ไม่มี
ใครฟังหรอกครับ เพราะไม่มีกฎหมายยกเว้นให้ แต่ผมเคยเจอข้ออ้างหนึ่งฟัง
แล้วยังงงๆจนถึงทุกวันนี้ ก็คือว่าซิ้มคนหนึ่งแกซื้อรองเท้าชนิดเดียวกันกัน
แบบเดียวกันเข้ามาเยอะแยะเลยครับ สักสอง-สามโหลได้ แกก็บอกตรงๆ
ว่าแกจะเอาไปขาย ผมก็บอกว่าซิ้มต้องเสียภาษีหน่อยนะ แกตอบกลับด้วย
ความฉุนเฉียวว่า เสียภาษีอาไล...ของอั๊วะยังไม่ได้ขายสักชิ้น....ได้กำไล
หรือเป่าก็ยังม่ายลู้......ลื้อจามาเก็บภาษีอาไล ว่าแล้วแกก็เข็นของไปทัน
ที ปล่อยให้เจ้าหน้าที่ยืนเซ่อรับประทานอยู่ตรงนั้น!!!
                        เดี๋ยวคราวหน้าผมจะมาว่าให้ฟังเรื่องวิธีการเก็บภาษี
ของเจ้าหน้าที่ศุลกากรให้ฟังกันครับ........วันนี้ลาไปก่อนสวัสดีครับ...........

ข้อดีและข้อเสียของเหล้า

ข้อดีและข้อเสียของเหล้า


        ในสมัยนี้เวลาไปเที่ยวหรือกินเลี้ยง ฉลอง  ปาร์ตี้  ต่างๆสิ่งที่แถบจะมีอยู่ในงานที่ขาดไม่ได้ก็คือ เหล้า นั้น เองหลายคนเชื่อว่ามันดีแต่ว่าในความเป็นจริงต่างก็รู้ว่าเหล้านั้นทำให้ร่าง กายเราไม่แข็งแรง แต่ว่าในข้อเสีย ก็มีข้อดี แต่จะเป็นอะไรบ้างเรามาดู  เกร็ดความรู้ทั่วไป   ที่ดิฉันนำมาฝากกันค่ะแล้วมาคิดกันดูว่าเราควรจะดื่มมันดีหรือไม่

ข้อดี  ของเหล้า มีอะไรบ้างมาดูกัน
- เหล้าทำให้ประชากรลดลงได้จำนวนมาก ถ้าไม่มีมัน โลกเราคงมีคนเยอะแยะมากมาย
- ทำให้เห็นความรักที่เพื่อนมีต่อคุณ ยอมตายแทนกันได้
- ทำให้กล้าทำอะไรมากขึ้น ทำบ้าๆ บอๆ ไม่ต้องกลัวขายหน้า เพราะตื่นมาก็จำอะไรไม่ได้
- เหล้าไม่ใช่คำตอบ แต่มันช่วยให้ลืมคำถาม
- ทำให้หลับสนิท จนอาจได้โดนลักหลับ และมีสามีโดยไม่รู้ตัว
- ทำให้มีแฟนได้ในคืนเดียว และเลิกกันได้ในคืนเดียวเหมือนกัน
- ทำให้โถส้วมมีประโยชน์มากขึ้น เอาไว้อ้วกได้อีกด้วย
-เป็นอุปกรณ์สากลที่ทำให้ไทยจีนฝรั่งคุยกันรู้เรื่องดีกว่าการแปลภาษา

ข้อเสีย ของ เหล้า

-เหล้าทำให้เรามีโรคต่างๆ เช่น ไปทำลายตับ เนื่องจากเหล้าที่ดูดซึมไปจะไปถูกทำลายที่ตับ ทีนี้ถ้ากินเหล้าเข้าไปมากเกินตับจะทำลายได้ มันจะทำลายตับแทนนั้นเองค่ะ
- เหล้าทำให้เหมือนจะคึกคักมีอารมณ์ทางเพศแต่นั้นแค่ช่วงแรก หลังจากนั้นจะทำให้เซ็กเสื่อม
- เหล้าทำให้คนที่มีเกียรติศักดิ์ศรีกลายเป็นหมาได้เลยละ
-เหล้าทำให้คนขาดสติ ไม่สามารถคิด อะไรได้

humphae.com